ตำนาน ความเป็นมาของซานตาคลอส
ตำนาน ความเป็นมาของซานตาคลอส
ซานตาคลอส ชายแก่ตัวใหญ่หนวดเครายาวท่าทางใจดี ที่หากพูดถึงวันคริสต์มาส ก็คงจะขาดคุณลุงคนนี้ไปไม่ได้ เรื่องราวของซานตาคลอสได้ผ่านระยะเวลาอันยาวนาน นับย้อนไปได้ถึงจุดเริ่มต้นในสมัยโรมันในราวปลายศตวรรษที่ 3 เด็กชายนิโคลัส ได้ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวคริสเตียนที่ร่ำรวย ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณเอเชียไมเนอร์ ตอนใต้ของตุรกีในปัจจุบัน ไม่นานบิดาและมารดาได้เสียชีวิตลงและได้ทิ้งมรดกไว้ให้เป็นทรัพย์สมบัติมากมาย หลังจากนั้น นิโคลัสจึงได้ออกบวชและเดินทางไปทั่ว และด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนใจดีมีน้ำใจ นิโคลัสจึงชอบช่วยเหลือผู้คน และชอบที่จะให้ของขวัญต่างๆกับผู้คนไปทั่ว
เรื่องเล่าในความใจดีของนิโคลัสที่เป็นที่นิยมคือ เรื่องราวที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือชายยากจน ซึ่งมีบุตรสาวสามคน โดยนิโคลัสได้แอบนำทองคำไปใส่ไว้ในถุงเท้าซึ่งตากอยู่ข้างเตาผิง พอเด็กๆมาพจบทองในถุงเท้าเข้าจึงแปลกใจ และตำนานเรื่องนี้เอง จึงได้ก่อเกิดธรรมเนียมการแขวนถุงเท้าในคืนวันคริสตมาสอีฟในปัจจุบัน
ผู้สนับสนุน
ตัวนิโคลัสเองนั้นได้ทำคุณงามความดีต่างๆอย่างสม่ำเสมอ จนต่อมาท่านได้ตำแหน่งบิชอฟแห่งไมรา (Bishop of Myra) แต่ทว่าพระจักรพรรดิของโรมันในช่วงนั้นไม่ให้ความสนับสนุนคริสตศาสนา และเกิดการกวาดล้างชาวคริสต์เกิดขึ้น นิโคลัสจึงถูกจับขังคุกเป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่งจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ นิโคลาสจึงถูกปล่อยตัวออกมา และให้ดำรงตำแหน่งตามเดิม โดยท่านได้ช่วยเหลือผู้คนต่างๆอย่างที่ท่านทำเป็นประจำจนกระทั่งมรณภาพไปในปี 343 คุณงามความดีที่ท่านทำมาตลอดชีวิตยังอยู่ในใจของผู้คนเสมอ และมีผู้นำชื่อท่านไปตั้งชื่อโบสถ์ หลังจากนั้นในราวปี 800 ท่านจึงได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญนิโคลัส (St.Nicholas)
จนราวปี 1,200 ได้เริ่มมีการฉลองวันเซนต์นิโคลัสในฝรั่งเศสในวันที่ 6 ธันวาคมซึ่งตรงกับวันมรณภาพ เนื่องจากเวลาผ่านไปนับพันปี เรื่องราวเกี่ยวกับเซนต์นิโคลัสนั้นได้ถูกเล่าไปในดินแดนต่างๆทั่วทั้งยุโรป บางแห่งก็มีการปรับแต่งให้กลายเป็นนิทานพื้นบ้าน โดยเปลี่ยนรายละเอียดของเรื่องให้เข้ากับแต่ละท้องถิ่น เช่น ในประเทศอังกฤษซึ่งไม่ได้นับถือนิกายคาทอลิก ก็ได้เล่าเรื่องของเซนต์นิโคลัสในอีกเวอร์ชั่นที่ชื่อ "ฟาเธอร์คริสต์มาส" ซึ่งมีลักษณะเป็นชายร่างใหญ่ใจดีขี่แพะ ซึ่งชอบแจกของขวัญให้คนทั่วไป
หรือในบางเวอร์ชั่นก็มีอธิบายไว้เพิ่มเติมว่าใส่ชุดสีเขียวอีกด้วย จนเมื่อชาวดัชท์ได้อพยพเข้าไปยังเมืองนิวอัมสเตอร์ดัม (นิวยอร์คในปัจจุบัน) ก็ได้นำเรื่องราวและประเพณีวันเซนต์นิโคลัสเข้าไปด้วย ซึ่งภายหลังได้ถูกนำมาฉลองรวมกับวันคริสต์มาส และชื่อของเซนต์นิโคลัสในภาษาดัทช์ คือซินเตอคลาส (Sinter Klass) ได้ถูกเรียกโดยชาวเมืองชาติอื่นๆและเพี้ยนเป็น "ซานตาคลอส" ในที่สุด รูปลักษณ์ของซานตาคลอสได้มีจิตกรหลายยุควาดออกมา และพัฒนากลายมาเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
ซานตาคลอส ชายแก่ตัวใหญ่หนวดเครายาวท่าทางใจดี ที่หากพูดถึงวันคริสต์มาส ก็คงจะขาดคุณลุงคนนี้ไปไม่ได้ เรื่องราวของซานตาคลอสได้ผ่านระยะเวลาอันยาวนาน นับย้อนไปได้ถึงจุดเริ่มต้นในสมัยโรมันในราวปลายศตวรรษที่ 3 เด็กชายนิโคลัส ได้ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวคริสเตียนที่ร่ำรวย ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณเอเชียไมเนอร์ ตอนใต้ของตุรกีในปัจจุบัน ไม่นานบิดาและมารดาได้เสียชีวิตลงและได้ทิ้งมรดกไว้ให้เป็นทรัพย์สมบัติมากมาย หลังจากนั้น นิโคลัสจึงได้ออกบวชและเดินทางไปทั่ว และด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนใจดีมีน้ำใจ นิโคลัสจึงชอบช่วยเหลือผู้คน และชอบที่จะให้ของขวัญต่างๆกับผู้คนไปทั่ว
เรื่องเล่าในความใจดีของนิโคลัสที่เป็นที่นิยมคือ เรื่องราวที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือชายยากจน ซึ่งมีบุตรสาวสามคน โดยนิโคลัสได้แอบนำทองคำไปใส่ไว้ในถุงเท้าซึ่งตากอยู่ข้างเตาผิง พอเด็กๆมาพจบทองในถุงเท้าเข้าจึงแปลกใจ และตำนานเรื่องนี้เอง จึงได้ก่อเกิดธรรมเนียมการแขวนถุงเท้าในคืนวันคริสตมาสอีฟในปัจจุบัน
ตัวนิโคลัสเองนั้นได้ทำคุณงามความดีต่างๆอย่างสม่ำเสมอ จนต่อมาท่านได้ตำแหน่งบิชอฟแห่งไมรา (Bishop of Myra) แต่ทว่าพระจักรพรรดิของโรมันในช่วงนั้นไม่ให้ความสนับสนุนคริสตศาสนา และเกิดการกวาดล้างชาวคริสต์เกิดขึ้น นิโคลัสจึงถูกจับขังคุกเป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่งจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ นิโคลาสจึงถูกปล่อยตัวออกมา และให้ดำรงตำแหน่งตามเดิม โดยท่านได้ช่วยเหลือผู้คนต่างๆอย่างที่ท่านทำเป็นประจำจนกระทั่งมรณภาพไปในปี 343 คุณงามความดีที่ท่านทำมาตลอดชีวิตยังอยู่ในใจของผู้คนเสมอ และมีผู้นำชื่อท่านไปตั้งชื่อโบสถ์ หลังจากนั้นในราวปี 800 ท่านจึงได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญนิโคลัส (St.Nicholas)
จนราวปี 1,200 ได้เริ่มมีการฉลองวันเซนต์นิโคลัสในฝรั่งเศสในวันที่ 6 ธันวาคมซึ่งตรงกับวันมรณภาพ เนื่องจากเวลาผ่านไปนับพันปี เรื่องราวเกี่ยวกับเซนต์นิโคลัสนั้นได้ถูกเล่าไปในดินแดนต่างๆทั่วทั้งยุโรป บางแห่งก็มีการปรับแต่งให้กลายเป็นนิทานพื้นบ้าน โดยเปลี่ยนรายละเอียดของเรื่องให้เข้ากับแต่ละท้องถิ่น เช่น ในประเทศอังกฤษซึ่งไม่ได้นับถือนิกายคาทอลิก ก็ได้เล่าเรื่องของเซนต์นิโคลัสในอีกเวอร์ชั่นที่ชื่อ "ฟาเธอร์คริสต์มาส" ซึ่งมีลักษณะเป็นชายร่างใหญ่ใจดีขี่แพะ ซึ่งชอบแจกของขวัญให้คนทั่วไป
หรือในบางเวอร์ชั่นก็มีอธิบายไว้เพิ่มเติมว่าใส่ชุดสีเขียวอีกด้วย จนเมื่อชาวดัชท์ได้อพยพเข้าไปยังเมืองนิวอัมสเตอร์ดัม (นิวยอร์คในปัจจุบัน) ก็ได้นำเรื่องราวและประเพณีวันเซนต์นิโคลัสเข้าไปด้วย ซึ่งภายหลังได้ถูกนำมาฉลองรวมกับวันคริสต์มาส และชื่อของเซนต์นิโคลัสในภาษาดัทช์ คือซินเตอคลาส (Sinter Klass) ได้ถูกเรียกโดยชาวเมืองชาติอื่นๆและเพี้ยนเป็น "ซานตาคลอส" ในที่สุด รูปลักษณ์ของซานตาคลอสได้มีจิตกรหลายยุควาดออกมา และพัฒนากลายมาเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
Comments
Post a Comment