Posts

Showing posts from June, 2015

คนตาย… แล้วไปไหน…

Image
คนตาย… แล้วไปไหน… คนเรา เมื่อมีเกิด ก็ต้องมีตายแน่นอน ยังไม่มีใครหนีความตายพ้น คนเราถ้าตายตามวาระหมดอายุขัย เช่น คนเฒ่าคนแก่ อายุ 60-70 ขึ้นไป ร่างกายร่วงโรย ทรุดโทรมป่วยตายไปนั้น วิญญาณจะไป 2 แห่ง คือ นรกกับสวรรค์ นอกจากนี้ก็ยังมีการตายก่อนหมดอายุขัยคือ คนตายโหง และคนตายห่า ซึ่งวิญญาณยังไม่สามารถไปนรก หรือ สวรรค์ได้ คนตายโหง หมายถึง คนที่ตายผิดปกติ เกิดจากอุบัติเหตุตาย เช่น โดนฆ่าตาย ฆ่าตัวตาย รถชนตาย ถูกเขาฆ่าตาย กินยาตาย ผูกคอตาย โดดน้ำตาย คนตายห่า หมายถึง คนที่ตายผิดปกติ  ด้วยอหิวาห์ หรือโรคระบาด การตายทั้ง 2 ประเภทนี้ จัดเป็นประเภทตายก่อนอายุขัยเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดทีเดียว ปัจจุบันคนที่อายุยังน้อยและ สุขภาพแข็งแรง ที่ด่วนตายมักเรียกว่า ตายก่อนวัยอันควร สาเหตุ ตายเพราะด้วยเหตุอดีตกรรมในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติมาตัดทอน เช่น อดีตชาติฆ่าเขาไว้ ตายเพราะด้วยเหตุปัจจุบันกรรมโดยแท้ คือพวกที่รู้อยู่ว่ามีเหตุให้ต้องตาย เช่น การสัมผัสสารพิษโดยทางอ้อมจากการทำงาน และทางตรงจากการดื่มเหล้าเมื่อตายไป วิญญาณจะมีสภาพ 1. เจ้าที่เจ้าทางกักบริเวณไว้ใช้ ส่วนหนึ่งจะถูกเจ้าที่เจ้าทางที่อยู่ในบร

ผีร้องไห้

Image
ผีร้องไห้ เหตุการณ์ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว ที่บริเวณหมู่บ้านริมทางรถไฟหลัก 3 ตำบลบางขุนศรี อำเภอบางกอกน้อย กรุงเทพฯ นายกุ่ย เป็นคนในหมู่บ้านนี้ ได้แต่งงานอยู่กินกับนางสดใสจนมีบุตรด้วยกัน 1 คน เป็นหญิงพอมีลูกมีเต้า นิสัยนายกุ่ยเปลี่ยนไปจากคนที่เคยขยันทำมาหากินรักครอบครัว กลับกลายเป็นคนสำมะเลเทเมา การงานไม่ยอมทำเอาแต่เมาหยำเปไปวัน ๆ สุดที่นางสดใสจะทนอยู่ด้วยได้ จึงหนีไปทิ้งลูกไว้ให้นายกุ่ยดูแลรับผิดชอบและก็ต้างตกเป็นภาระของญาติๆ นา ยกุ่ยนั้นแหละ เพราะนายกุ่ยไม่ได้ปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเลย จนกระทั่งลูกเริ่มเป็นสาว คืนหนึ่งนายกุ่ยเมาโซเซเดินกลับบ้าน พวกญาติพี่น้องรวมกันรุมด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงท้ายสุด ได้ขอร้องนายกุ่ยว่าเห็นแก่ลูกที่กำลังโตเป็นสาวบ้าง ลูกต้องอับอายชาวบ้านเขาแค่ไหนที่มีพ่อเป็นคนขี้เหล้าเมายาอย่างนี้ นายกุ่ยแทนที่จะรู้สึกสำนึกตนว่าผิด กลับแค้นใจและน้อยใจที่ญาติรังเกียจตน จึงไม่ยอมหลับนอน เดินร้องไห้ฟูมฟายน้ำตาออกจากมายืนอยู่ริมทางรถไฟ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ นั้น พอดีมีรถไฟขบวนหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง นายกุ่ยจึงตัดสินใจกระโดดให้รถไฟทับเป็นการประชดชีวิต ผลก็คือร่างแหล

พระนางฮัตเซปซุต (Hatshepsut) ฟาโรห์หญิงองค์แรกแห่งอียิปต์

Image
พระนางฮัตเซปซุต (Hatshepsut) ฟาโรห์หญิงองค์แรกแห่งอียิปต์ กษัตริยาแห่งอาณาจักรใหม่ พระนางฮัตเซปซุตผู้ทำหน้าที่สำเร็จราชการแทน พระโอรสแห่งธุตโมซิสที่ 2 (พระสวามี) ซึ่งเกิดจากพระชายา "ธุตโมซิสที่ 3" เป็นเวลาเกือบ 7 ปี พระนางได้เปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองจาก "ราชินี" เป็น "กษัตริย์" และทรงราชกกุธภัณฑ์เสมือนผู้ชาย ซ้ำยังมีหนวดเคราอีกด้วย รัชสมัยของพระนางถือว่าเป็นอีกยุคหนึ่งที่อียิปต์ มีความเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก... ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 2 ตามประเพณีการสืบราชสมบัติแล้ว ทายาทซึ่งเป็นโอรสองค์โตของฟาโรห์จะต้องขึ้นครองราชย์แทนฟาโรห์องค์ก่อน แต่เนื่องจากทายาทที่มีสิทธิ์และศักดิ์ในขณะนั้น ซึ่งก็คือ "ธุตโมซิสที่ 3" พระโอรสแห่งฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 2 ที่เกิดจากพระชายาอีกพระองค์ ยังทรงพระเยาว์มาก ครั้นจะให้นั่งบัลลังก์ว่าราชการบ้านเมืองปกป้องประชาชนก็คงจะไม่ได้ ภาระจึงต้องตกเป็นของพระนางฮัตเซปซุต (Hatshepsut) ผู้เป็นพระราชินีแห่งฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 2 ต้องขึ้นบัลลังก์ว่าราชการบ้านเมืองแทนฟาโรห์องค์น้อยไปก่อน จากพระราชินีเคียงข้างองค์ฟาโรห์ กลายเป็นฟาโ

บูกี้ แมน (Boogeyman)

Image
บูกี้แมน มาจากหลายชื่อเพราะมันปรากฏตัวทั่วโลก   เช่นboeman (เดนมาร์ก), buse (นอร์เวย์), bcan,pca, pooka or pookha (Irish Gaelic),   pwca, bwga or bwgan (เวลล์), puki (Old Norse), pixie or piskie (Cornish),   puck (อังกฤษ), bogu (Slavonic, buka Russian) บูกี้แมนนั้น มีความโหดร้ายเลือดเย็น บูกี้แมน มันสามารถเปลี่ยนรูปร่างต่างๆ ได้ และสามารถผ่านเข้าไปได้ทุก ๆ ที่  บางที่อาจเป็นเพียงธุลี ปลิวเข้าทางช่องหน้าต่างหรือรูกุญแจ   บางทีอาจเป็นเงารางๆ แต่มันสามารถฆ่าคนได้ ผู้สนับสนุน มีความเชื่อว่า พวกฆาตกรต่อเนื่องหรือซีเรียล คิลเลอร์ที่ก่อคดีฆาตกรรมมากมายนั้นคือ บูกี้แมนนั้นเอง บูกี้แมนยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการที่พ่อแม่ หรือผู้ใหญ่จะเอาไว้หลอกเด็กๆ ให้เกิดความกลัวเวลาเล่นซน ดื้อ เอาแต่เล่นไม่ยอมเข้านอน ไม่ยอมรับประทานอาหาร ฯลฯ โดยพ่อแม่จะหลอกลูกๆว่าบูกี้แมนกำลังคอยซ่อนตัวอยู่ตามใต้เตียงบ้าง แอบอยู่ในตู้เสื้อผ้า หรือตามมุมมืดของห้องบ้าง เพื่อเฝ้ามองและหาโอกาสจัดการกับเด็กเวลาเผลอ สิ่งที่บูกี้แมนจะทำก็คือ ทำให้เด็กฝันร้าย บูกี้แมนจึงเป็นตัวผู้ร้ายสำหรับเด็กๆ บูกี้แมนนั่นมาจากเรื่องจริง ในแถบเก

Chupacabra ชูปาคาบรา ตัวดูดเลือดแพะ

Image
Chupacabra    ชูปาคาบรา เป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับในตำนานชนิดหนึ่ง มีผู้ที่อ้างว่าพบเห็นมันครั้งแรกในเปอร์โตริโกในช่วงต้นทศวรรษที่ 50 และมีหลายคนรายงานว่า มันได้ฆ่าสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น แพะ ด้วยการดูดเลือด เป็นจำนวนมาก และยังคงมีผู้พบเห็นมันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบัน ที่เปอร์โตริโก มีนักสำรวจท้องถิ่นได้สำรวจเรื่องราวเกี่ยวกับชูปาคาบรา และพบถ้ำแห่งหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นที่อาศัยของมัน และรอยเท้าของชูปาคาบราก็มีลักษณะใหญ่คล้ายนกกระจอกเทศ... ผู้สนับสนุน จากการศึกษาซากสัตว์ที่เชื่อว่าตายด้วยการดูดเลือดของชูปาคาบราจนหมดตัวนั้นของแพทย์ผู้ เชี่ยวชาญ พบว่า แท้จริงแล้วเลือดในตัวสัตว์เหล่านั้นยังมีอยู่ เพียงแต่ว่าถ้ามองจากภายนอกอาจดูเหมือนไม่มีเลือดเหลืออยู่ในตัวเลย เป็นเพราะเลือดในตัวสัตว์นั้นได้หยุดไหลเมื่อหัวใจหยุดเต้น และเชื่อว่า สัตว์ที่โจมตีสัตว์เหล่านี้นั้น น่าจะเป็น สุนัขป่าหรือลิงป่า อย่างไรก็ตาม จากภาพสเก็ตของผู้ที่อ้างว่าเคยพบเห็น ชูปาคาบรามีรูปร่างหน้าตาหลากหลายต่างกัน แต่มีลักษณะที่ร่วมกันคือ มีหน้าตาคล้ายมนุษย์ต่างดาวที่เรียกว่า เกรย์ (Grey) แต่มีขาหลังที่ใหญ่คล้ายจิงโจ้